สัมภาษณ์ นักสู้ "Fighter Blue" ...แพ้หรือชนะ มันเป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ มันเป็นกีฬา...
ผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย รุ่นไม่จำกัดน้ำหนัก (ตั้งแต่ 81 กิโลกรัมขึ้นไป)- NAKSU MMA Thailand 2011
- : รู้สึกยังไงที่ได้กลับเข้ามาศึกนักสู้อีกครั้ง?
Fighter Blue
ออ...ดีใจครับผม เพราะว่าก็จริง ๆ แล้วปีที่หายไปก็อยากจะมาลงเล่น แต่ทีนี้มีปัญหาการทำงานเยอะแยะ ตอนนี้งานเบานิดนึง จึงได้กลับมาครับ
- : อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ Fighter Blue กลับมาขึ้นสังเวียน"นักสู้"อีกครั้ง?
Fighter Blue
ก็ใจจริงก็คือว่าเราอยู่ในวัยที่ใกล้จะรีไทร์แล้วฮะ คิดว่ามันน่าเกือบ ๆ แล้วละ คงน่าจะได้อีกสักครั้งนึง ถ้าเราปล่อยเวลาให้มันผ่านไปเนี๊ย มันก็จะหายไปเลยนะ เลยตัดสินใจว่า อะ! เอาอีกสักครั้งนึงครับ
- : ตอนที่ได้แชมป์ปี 2009 รู้สึกอย่างไรบ้างครับ?
Fighter Blue
อ๋อ...ก็มันดีใจเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แล้วก็รู้สึกภูมิใจตนเองว่า เออเราก็ทำได้เหมือนกันนะในสิ่งที่เราเคยเจอมาไรเงี้ยอะครับ ลองเล่น MMA มาค่อนข้างจะนานแล้วละ ก่อนที่ MMA จะเป็น MMA ก็ไม่เคยได้แบบว่าในทัวนาเมนท์ที่เป็น Champion อะไรแบบเนี๊ยก็รู้สึกดีใจ
- : เริ่มต้นเล่น MMA มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?
Fighter Blue
เล่นไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ที่เล่น Daido juku นั่นมันก็จาก MMA 90% แล้วละ แล้วก็กติกาก็เหมือนนักสู้นี่แหละครับ (เป็นยังไงบ้าง?) ตอนนั้นก็กติกาก็จะเหมือนกันหมด เพียงแต่ว่าไฟเตอร์ที่เก่ง ๆ สมัยก่อนนะเค้าก็จะมาลงเล่นที่นี่กัน แล้วก็เค้าก็เห็นเค้าก้าวขึ้นไปข้างหน้า เค้าก็เป็นไฟเตอร์เก่ง ๆ กันตั้งหลายคนนะฮะ
- : ทราบว่าสมัยนั้น Fighter Blue ก็เคยจัดมีตติ้งอะไรสักอย่าง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ?
Fighter Blue
อ๋อ เคยจัดมีตติ้งที่มหา'ลัย 555 ก็คือมันเป็นมีตติ้งอะ เราก็เล่นเน็ตอะนะ แล้วสมัยก่อนก็มีคนเค้ามาโพสใน Siam Fighter อะไรนี่แหละจำไม่ได้ แล้วก็อยาก ทำไมไอ้นี่เจอกันแล้วจะเป็นยังไง แล้วก็ไอ้นั่นเจอกันแล้วจะเป็นยังไง ไอ้เราก็เล่นอยู่ไปเล่นที่ญี่ปุ่นมาก็ เอ้อ! พอจะรู้กติกาเค้าบ้างว่า เค้าเล่นกันยังไง คือแบบนี้นะสากล ก็เลยคุยกับน้อง ๆ ในเน็ตนั่นแหละ บอกว่าเออผมไม่มีเงินทำรางวัลอะไรให้หรอกนะ แต่ผมจะจัดสถานที่ให้ แล้วก็ใครเป็นวิชาอะไรก็เดี๋ยวมาลอง ๆ กัน แต่ผมจะไม่มีผลแพ้-ชนะนะ ผมมีเวลาให้ 5 นาที ก็แลกเปลี่ยนทักษะกันไป โดยที่กติกาก็คล้าย ๆ กับ"นักสู้"นี่แหละ เพียงแต่นวมสมัยนั้นจะเป็นนวมมวย ซึ่งตอนนั้นยังหานวมเป็นเฉพาะไม่ได้ ก็ประสบความสำเร็จดีครับ ก็ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง สู้กันปกติ เราก็ไม่มีวัดผลแพ้-ชนะกันหมดเวลาเราก็เลิก
- : สภาพร่างกายตอนปี 2009 กับปี 2011 ตอนไหนฟิตกว่ากัน?
Fighter Blue
อ๋อ...เออ...555 เรื่องความฟิตนี่ เออ...ก็พยายายามเต็มที่นะครับ แล้วก็ปีนี้ก็คิดว่าน่าจะดีกว่า เพราะมีเวลาฟิตได้เยอะกว่า อย่างแมทช์ที่แล้วเนี๊ยก็พยายามเซฟตัวเอง เพราะว่าเราก็อายุเยอะแล้วอะนะ ไม่ได้ไปบู๊อะไรมาก แต่ว่าไอ้การซ้อมเนี๊ย ฟิตไม่ฟิตมันอยู่ที่เรามีงานเยอะไหมอะครับ พอดีงานค่อนข้างจะเยอะมาก 555 ครับผม ทีนี้เนี๊ยพอดีมีเวลาเนี๊ยจัดแมทช์จากเดือนที่ผ่านมามาถึงธันวาก็ค่อนข้างจะยาว ก็น่าจะฟิตครับ
- : ช่วยเล่าตอนเจอกับ BossDy ให้หน่อยครับ
Fighter Blue
อ๋อ...น้องก็เป็นเด็กตัวใหญ่อะครับกำลังดี แล้วก็ทักษะเค้าก็เหมือนกับคนกำลังเพิ่งหัดขึ้นมาหนะ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าถ้าน้องเนี๊ยคนนี้นะ ถ้าแบบได้เรียนรู้ไปมากกว่านี้ แล้วก็ใช้เวลากับ MMA มากกว่านี้ ผมว่าจะน่ากลัว เพราะตัวเค้าสูงใหญ่อะ แล้วก็จิตใจเค้าโอเค เค้าโดนหมัดแล้วตาเค้าไม่หลบอะไรเนี๊ย
- : คู่ต่อสู้คนต่อไปคือ"แหนมสู้" ได้ดูคลิป VDO ไปรึยัง คิดว่าเค้าเป็นอย่างไรบ้าง?
Fighter Blue
ดู ๆนะครับ ก็คงจะเป็นมวยหมัดอะนะ หมัดเค้าค่อนข้างจะหนัก ก็ต้องระวังหมัดหน่อยครับผม แล้วก็ในเรื่องกราวไฟต์อะไรก็ที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้เห็นเค้าเล่น ก็อาจจะเป็นหมัดมวยหมัดอาชีพแล้วก็ระวังหมัด แล้วก็อย่างอื่นเราก็ดูไปตามสถานการณ์
- : ได้เตรียมตัวฟิตซ้อมอย่างไรบ้างครับ?
Fighter Blue
ก็หลังเลิกงานอะครับ ก็ไปซ้อมที่ค่ายมวย ส.วรพิน ก็ไปซ้อมเหมือนนักมวยทั่วไปอะครับ ก็ไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัว ก็ไปสมัครซ้อมเป็นปกติ เค้าก็ล่อเป้าให้เค้าถามว่าไปแข่งอะไร ก็บอกว่าแข่ง"นักสู้"เค้าก็งงๆ 555 อะไร"นักสู้" ผมก็พยายามอธิบายว่าเป็นอย่างงี้ ๆ ก็เปิดคลิปให้เค้าดู เค้าก็สนใจ เค้าบอกว่าเดี๋ยวกำลังคุยกับเค้าว่า เดี๋ยวเค้ามีฝรั่งที่เค้าอยากเล่นไรทำนองเนี๊ย เค้าจะติดต่อมาผมก็จะส่งไป กำลังทำกำลังคิดกันอยู่ คนในค่ายเออเดี๋ยวจะทำฝรั่งทำอะไรขึ้นสนุกดี ตอนเช้าถ้าคิดจะซ้อมช่วงเช้าก็วิ่งมั่งไม่วิ่งมั่ง แล้วแต่การทำงานครับ
- : ถ้าได้เข้ารอบชิง คิดว่าน่าจะได้เจอกับใคร ระหว่าง กล้า VS Juggernaut?
Fighter Blue
ใจผมคิดแล้วถ้าคนสิงคโปร์นั้น ถ้าต่อย 2 ยกไม่หยุดเลยน่าจะเข้า Win นะ ถ้าไม่ปล่อยโอกาสให้คนที่เป็นนักยูโดปล้ำหนะ เพราะว่าดูแล้วเค้าค่อนข้างจะฟิตมากเลยแหละคนนั้น ถ้าไม่พลาดโดนปล้ำนะ ถ้าโดนปล้ำก็คงเสร็จครั้งนี้เหมือนกันแหละ
- : ตั้งแต่เล่นกีฬาต่อสู้มา ประทับใจช่วงเวลาไหนมากที่สุด?
Fighter Blue
ผมประทับใจช่วงเวลาที่เป็นแชมป์"นักสู้"นี่แหละ มันเหมือนกับว่าเราได้ทำทุกอย่างผ่านมาแล้วก็เราได้พิสูจน์บางอย่างออกมาได้ ไอ้แมทช์อะไรที่เราเคยร่วม โอเคมันอาจจะใหญ่กว่า หรือมันจะบิ๊กกว่า แต่จริง ๆ ชนะบ้างแพ้บ้างแต่ในกติกาของ MMA การที่เป็น MMA แท้ ๆ เนี๊ย ก็เพิ่งจะมี"นักสู้"นี่แหละที่พูดได้เต็มปากว่า MMA แล้วก็โอเคเป็นอะไรที่เราได้เข้า ผมเข้าร่วมมาตั้งแต่ KOF เลยเห็นไหมละ 555 ผมรู้ข่าวครั้งแรกผมก็เข้าไปร่วมตลอด พอดีปีที่แล้วปีเดียวที่ไม่ได้ลง ช่วงนั้นติดงานเยอะมาก กีฬามหา'ลัย กีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ทำเด็ก ๆ อะ แล้วก็ตัวเราก็ไม่มีเวลาซ้อม เราไม่พร้อมเราก็ไม่ค่อยอยากจะลง แต่ผมก็ไปดูนะ ไปดูได้ครึ่งวันแล้วก็กลับ
- : หน้าที่การงานในปัจจุบัน?
Fighter Blue
ก็เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่สวนดุสิตครับ เป็นโค้ชเทควันโด-คาราเต้ แล้วก็เปิดยิมสอนเทควันโดอยู่ที่นครปฐมกับที่ดอนเมือง แล้วก็โรงเรียนเยอะแยะ
- : ลูกศิษย์หรือคนรู้จักบอกว่าอย่างไรบ้าง พอรู้ว่าจะไปแข่ง"นักสู้"?
Fighter Blue
เอาจริง ๆ นะส่วนใหญ่ 80% เค้าไม่อยากให้ลง 555 เพราะหนึ่งคือเราอยู่ในฐานะอาจารย์ไง ไม่มีใครอยากเห็นอาจารย์ตัวเองแพ้ สองก็คือเราเปิดโรงยิมเงี๊ย มีหลายคนเค้าจะคิดว่า เอ้ย! ถ้าเกิดไปแพ้จะมีผลกระทบกับเงินในเรื่องทำธุรกิจอะไรยังเงี้ย แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งที่คิดมาผมก็เคยตอบพวกเค้าไปแล้ว มันผิดนะ มันไม่ใช่ การที่ยิ่งเราเป็นนักศิลปะการต่อสู้ แล้วเราหากินทางนี้โดยตรง ผมไม่ถือว่าหากินทางนี้ 100% นะ ยิ่งเราก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง แล้วยิ่งเราก็ต้องมีพื้นฐานในการที่รู้จริง ๆ บนเวทีเพื่อไปตอบคนอื่น รู้จริง ๆ อะ ยิ่งเราจะต้องทำ ไม่ใช่เราไปดูข้าง ๆ แล้วเราก็บอก เฮ้ย!อย่างงี้ดีอย่างงั้นดี พวกชอบวิจารณ์ไง เออแล้วเราก็เราไม่เคยสัมผัสเนี๊ยมันก็เป็น ถือว่าเป็นหน้าที่ของเรา ผมพูดกับคนพวกนี้อย่างนั้นนะ
- : คุณ Fighter Blue เป็นอาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาจะมีผลให้จำนวนลูกศิษย์ลดลงไหม?
Fighter Blue
อืม...ในส่วนตัวของผมไม่นะ เพราะว่าผมจะบอกกับทุกคนเลย นี่ผมต้องไปแข่งเทควันโดมา ผมแข่งเทควันโดเพื่อลง"นักสู้"นะ เพราะว่าผมต้องการ Build ตัวเองว่า เออไม่ใช่นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วก็มาทำตัวซ้อมก็อก ๆ แก็ก ๆ ไม่ซ้อมนั้นไม่ใช่ ผมว่าไม่หรอก เพราะว่าเราคือการทำโรงยิมหรือทำการสอนมาเชียลอาร์ทเนี๊ย เราต้องมีปรัชญาของตัวเอง ผมจะบอกกับลูกศิษย์ทุกคนว่า แพ้หรือชนะ มันเป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ มันเป็นกีฬา แต่คุณทำได้ดีที่สุดรึยัง? ถ้าคุณทำได้ดีที่สุดแล้วคุณโอเค คุณดูผม ผมเป็นอาจารย์คุณ ทุกแมทช์ที่ผมไปลงแข่งนะ ไม่ว่าผมจะแพ้หรือจะชนะ จะไม่มีใครพูดว่าผมทำไม่เต็มที่ แม้แต่เทควันโดผมก็เคยแพ้ แต่ผมก็เปิด VDO ให้ลูกศิษย์ดู "นักสู้"ผมก็เคยแพ้ปี KOF อะ ทุกครั้งที่แพ้นะ ผมจะเอา VDO มาเปิดให้ลูกศิษย์ดูทุกคนด้วย ก็คือแพ้เพราะอะไร ครูแพ้เพราะอะไร แล้วครูทำเต็มที่ไหม ก็จะดูใน VDO ผมว่ามันจะเป็นการสอนเค้าด้วยครับ
- : ปีนี้ถ้าได้แชมป์เป็นสมัยที่ 2 มีเป้าหมายอย่างไรบ้าง?
Fighter Blue
ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้นะ ผมก็มีโครงการว่าเดี๋ยวจะทำโรงยิม MMA อยู่สักที่นึงเพื่อสืบทอดตรงนี้ต่อไป อาจจะเป็นในนามของคาราเต้สายผมก็ได้ แต่มีความเป็น MMA อยู่แหละ คือเรามีประสบการณ์ทางนี้โดยตรงแล้วนี่ เรารู้ว่าเอออันนี้ต้องทำอย่างนี้นะใ นกติกาของ"นักสู้"เราควรจะทำยังไง อาจจะทำเด็กขึ้นมาป้อน"นักสู้"ขึ้นมา ป้อนขึ้นมาแข่งครับ
- : ช่วยกล่าวถึงผู้ที่ติดตามเชียร์ Fighter Blue ในศึก"นักสู้" ครั้งที่ 8 ด้วยครับ
Fighter Blue
ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ยังเชียร์อยู่นะครับ แล้วก็อยากให้ทุกคนที่ตามเชียร์ในศึก"นักสู้" เนี๊ย ให้ช่วยกันส่งเสริมให้รายการนี้มันดียิ่งขึ้นนะ ถือว่าการจัด"นักสู้"เนี๊ยเปรียบเสมือนเป็นหัวหอกที่ดีฮะ เราสามารถจะทำตรงเนี๊ยให้ก้าวขึ้นไปอีกไกล ๆ อะ ในหัวผมมีเรื่องนี้เยอะนะ ถ้าวันหลังค่อยคุยกันว่ามันจะไปก้าวไปทางไหนได้อีกเยอะ ก็อยากให้ทุกคนได้ช่วย ๆ กันครับ