น้ำหวาน

ทีม ปัญจบุตรยิม

สัมภาษณ์ "น้ำหวาน" รองแชมป์ NAKSU 2010


รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 81 กก.


  • : รู้สึกอย่างไรที่ได้รับสิทธิขึ้นชิงแชมป์นักสู้?
  • น้ำหวาน

    ความรู้สึกผมก็คือ ดีใจครับ ที่ได้รับเกียรติว่า อืม..เรา ครั้งหนึ่งในชีวิต เราได้ทดลองเล่นกีฬาแบบนี้ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งใหม่สำหรับผม ก็รู้สึกตื่นเต้นครับ ก็ชอบนะครับ พอหลังจากการแข่งขันก็มีความรู้สึกว่ามันเป็นกีฬาที่แบบรวมศิลปะการต่อสู้ ทุกอย่างเข้ามารวมด้วยกันอะไรอย่างงี้อะครับ

  • : คู่ต่อสู้เป็นชาวต่างชาติ รู้สึกกดดันไหม?
  • น้ำหวาน

    อืม...ไม่กดดันอะครับ เพราะว่าโดยส่วนตัวผม ผมมีความรู้สึกว่าคนไทยน่าจะน่ากลัวกว่า ส่วนต่างชาติเขาก็คือ เค้าอาจจะเก่งในแขนงต่างๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีความสามารถต่างกันแล้วแต่ว่า จังหวะโอกาสใครจะใช้วิชาตัวนั้นเข้ามาได้ดีกว่ากันครับ

  • : ได้เตรียมตัวก่อนแข่งมาอย่างไรบ้าง?
  • น้ำหวาน

    ก็คือ..จริงๆแล้วตอนก่อนแข่งนี่ก็เตรียมตัว ถือว่าเตรียมตัวดีพอสมควรอะครับ เพราะว่าก็มีวิ่ง มีเล่นเวท มีการฝึกซ้อมมีอะไรอย่างงี้อะครับ แล้วก็ทำน้ำหนักลดน้ำหนักลงมาจากประมาณซัก 80 ลดลงมาเหลือประมาณ 74-73 อะไรอย่างงี้อะครับ เพราะว่าตั้งใจจะไปต่อยรุ่น -75 อย่างงี้ครับ ก็รีดน้ำหนักลงมาเยอะพอสมควร แต่ว่าก็รีดด้วยการออกกำลังกาย ไม่ได้อดอาหารอะไร พอวิ่ง เล่นเวท น้ำหนักมันจะลง ก็จะมีกล้ามเนื้อซะเยอะอะครับ

  • : สภาพร่างกายตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะคุณลดมาในรุ่น -75 แต่ได้ลงแข่งรุ่น -81?
  • น้ำหวาน

    โดยสภาพร่างกายของผม ผมถือว่าดีนะ ประมาณซัก 80-85% อะไรอย่างงี้อะครับ แต่พอเราขึ้นไปชกรุ่นใหญ่นี่ มันเป็นบทพิสูจน์ว่า..น้ำหนักหนะ weight มันมีผล เพราะว่าพอเราเบียดเสียดทานไปมันจะมีระยะเบียดกันไปอะครับ โดยใช้แรงบี้กันไง มันจะแผ่วอะครับ เพราะว่าแรงปะทะหนึ่ง และสองคือเวลาแรงกดทับอะไรอย่างงี้ ถ้าเป็นพิกัดเดียวกันนี่เราจะสามารถยกตัวสามารถอะไรอย่างงี้ได้ แต่พอน้ำหนักมันมากงี้จากที่เราเคยยกตัวหนีได้มันก็ยกตัวหนีไม่ได้อะไรอย่าง งี้ครับ แต่ว่าอันนี้มันเป็นธรรมชาติของการกีฬาที่มันแบ่งรุ่นอยู่แล้วครับ เขาถึงมีการแบ่งรุ่นกันขึ้นมาไงละครับ

  • : อะไรเป็นสิ่งจูงใจให้คุณมาร่วมศึกนักสู้?
  • น้ำหวาน

    จริงๆแล้วคือพวกน้องชายผมอะครับ คือคนใกล้ชิดผมอะก็คือจะรู้จักกัน เค้าจะแข่งนักสู้อะไรอย่างงี้ เขาก็มาเล่าให้ฟังว่า นี่ผมไปแข่งนักสู้สนุกอย่างงี้อะไรอย่างงี้ ก็รับฟัง ก็เคยไปเก็บตัวทีมชาติอยู่กับปอนด์(คมฤทธิ์)อะครับ คือจะเก็บตัวอยู่ด้วยกันกับยุทธ(หนุมาน) เค้าก็มาเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้เค้าจะไปต่อย ผมก็รับฟัง เออ...อย่างงี้สนุก พอหมดผมแข่งภารกิจอะไรผมหมดแล้วนี่ หลังจากนั้นผมว่าง ผมก็เลยทดลองเล่นดูอะครับ

  • : อยากได้แชมป์นักสู้บ้างไหม?
  • น้ำหวาน

    อยากครับ ทุกคนที่แข่งทุกคนอยากได้แชมป์ทุกคนอยากชนะหมด แต่ขึ้นอยู่กับว่าโอกาส สภาพ ความสามารถ ณ ชั่วโมงนั้น อะไรมันก็เกิดขึ้นได้อะครับ

  • : ปีนี้จะส่งทีมลงมาแข่งศึกนักสู้อีกไหมครับ?
  • น้ำหวาน

    คิดว่าคงส่งอะครับ เพราะว่าตั้งแต่กลับจากศึกนักสู้มาแล้วก็มีน้องๆเข้ามาร่วมซ้อมด้วยเยอะพอ สมควร เป็นเด็กๆก็เยอะ เป็นเยาวชนอะไรอย่างงี้อะครับ มาศึกษามาแลกเปลี่ยนความรู้กัน มีทั้งยูโด, คาราเต้, มวยไทย ก็มารวมกันมาซ้อมกันอย่างงี้อะครับ

  • : ปัญจบุตรยิม คุณก่อตั้งขึ้นมาเอง หรือมีอยู่แล้วครับ?
  • น้ำหวาน

    ทีแรกเลยอะครับ คือมันจะเป็นสมาคมยูโดกับยูยิตสูครับ ที่พวกผมเป็น คือผมสามคนพี่น้องคือจะเป็นโค้ชของจังหวัด โค้ชของสโมสรอะไรอย่างงี้อะครับ ก็คือจะสอนยูโด สอนอะไรมาอย่างงี้อยู่แล้ว แต่พอไปแข่งนักสู้นี่มันจะเป็นกีฬาอีกรูปแบบหนึ่ง ก็เลยตั้งชื่อ เอาชื่อนามสกุลตั้งเป็นยิม เพราะทุกวันนี้เค้าจะสอน สอนรวมทุกอย่าง เริ่มจากวอมร่างกายแล้วก็ยูโดก่อน มวยสุดท้ายอะไรอย่างงี้อะครับ ก็คือสอนไล่ step อะครับ

  • : ปัญจบุตรยิมอยู่ที่ไหน? คุณเป็นคนสอนด้วยไช่ไหม?
  • น้ำหวาน

    อยู่เชียงใหม่ครับ ใช่ครับ คือในส่วนของปัญจบุตรยิมนี่ ผมก็เป็นคนดูแลวางแผน จัดคอร์สสอนพวกน้องๆ แล้วก็คนที่สอนจะเป็นทีมก็ 3 คน จะมีน้องชายผมอีก 2 คน ก็เล่น mma ด้วย เป็นนักกีฬาอะไรอย่างงี้ด้วยอะครับ เป็นนักกีฬายูโด เป็นนักกีฬายูยิตสูอะไรอย่างงี้อะครับ

  • : ชีวิตในวัยเด็กของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
  • น้ำหวาน

    ชีวิตในวัยเด็ก ผมเกิดที่กรุงเทพฯอะครับ แต่ว่าโตที่เชียงใหม่ ก็ศึกษาอยู่ในโรงเรียนที่เชียงใหม่ คิดเริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่ตอนเด็กอะครับ ตั้งแต่ ป.1-ป2. อะครับ เริ่มแรกทีเดียวผมจะเล่นมวยปล้ำมาก่อน ผมติดมวยปล้ำ เคยติดทีมชาติมวยปล้ำครั้งนึง แต่ว่าผมเล่นแล้วผมไม่ชอบผมก็เลยเปลี่ยนกีฬา คือครอบครัวผมเป็นครอบครัวนักกีฬามา คุณพ่อเป็นนักกีฬาทีมชาติเหมือนกันอะครับ ก็ติดตามตอนไปซ้อม พ่อผมเป็นทั้งมวยปล้ำและยูโดเลยครับ ยูโดก็เป็นแชมป์ประเทศไทยเป็นอะไรอย่างงี้อะครับ คือผมก็ตามไปซ้อมก็เห็นด้วยความชินตาทุกวัน ผมก็เริ่มเล่นตั้งแต่เด็กๆมา แต่ว่ามาจริงจังจริงๆก็คือประมาณ ม.4-ม.5 อะครับ แล้วก็เข้ากรุงเทพฯ มารับราชการทหาร ก็เริ่มติดทีมชาติมาตั้งแต่รับราชการทหารอะครับ

  • : ตอนเป็นทีมชาติเคยเข้าร่วมการแข่งขันอะไรมาบ้าง ได้รางวัลอะไรบ้าง?
  • น้ำหวาน

    ถ้าเป็นยูโด ผมได้เหรียญทองซีเกมส์ 2 ครั้ง แล้วก็เหรียญเงิน 2 ครั้ง เหรียญทองแดง 1 ครั้ง ถ้าเป็นยูยิตสูผมได้เหรียญทองกีฬา Martial Art ครั้งที่ผ่านมานี่ล่าสุดครับ

  • : นักสู้ที่คุณชื่นชอบ?
  • น้ำหวาน

    อืม...คือจริงๆ ผมก็คิดว่าทุกคนที่เข้ามาแข่งอะ ก็ชื่นชอบทุกคนอะครับ เพราะถือว่ามีใจเป็นนักสู้ทุกคน และก็มีความกล้าที่จะมาแข่งขันตรงนี้ ไม่จำเป็นว่าคนที่ชนะจะต้องเป็นคนกล้า ไม่ใช่ คือคนที่กล้าเข้ามา กล้าคิดที่จะมาต่อสู้ คิดที่จะมาแข่งขัน ผมว่าทุกคน OK หมดทุกคนอะครับ

  • : คุณมีนักสู้ต้นแบบไหม นักสู้ตัวอย่างที่คุณอยากเป็นอย่างเค้า?
  • น้ำหวาน

    คือ...นักสู้ตัวอย่าง ใจผม อาจจะไม่ใช่กีฬานักสู้ของเรานะครับ ผมชอบไปทางมวยอะครับ เป็นทางมวยไทย ใจผมชอบสามารถอะครับ เพราะผมว่าจังหวะเหลี่ยมเค้าใช้สมอง คือบางทีมันไม่จำเป็นต้องใช้แรงทุกอย่าง

  • : ในการแข่งขันคุณจะเน้นอะไรเป็นพิเศษ?
  • น้ำหวาน

    แรงครับ ฮิฮิ... ถ้าไม่มีแรง แย่ครับ อย่างน้อยต้องฝึกซ้อม ประสบการณ์ช่วยได้แต่ช่วยได้แค่ 50% ถ้าไม่มีแรงก็อย่างผมบอกอะครับ พอสู้ไปนานๆเจอแรงเสียดทานมันจะทานไม่ไหว มันจะชี้ชัดตรงนั้นอะครับ เหมือนมวยปล้ำตีเข่า ปล้ำกันก็รู้แล้วใครแผ่วไม่แผ่ว เพราะว่าน้ำหนักมันต่างกันเยอะพอสมควร แฮะๆ

  • : หน้าที่การงานของคุณในปัจจุบัน?
  • น้ำหวาน

    ปัจจุบันผมรับราชการอยู่กองทัพอากาศครับ

  • : ความใฝ่ฝัน หรือสิ่งที่อยากทำในอนาคต?
  • น้ำหวาน

    อืม...ก็คือใจเลย ถ้าเกิดว่าพร้อมทางด้านการเงินทางด้านอะไรไม่ต้องดิ้นรนที่จะต้องทำงานหา เงินมาใช้ในชีวิตประจำวันก็คือ เปิดยิมแล้วก็สอนเด็กๆสอนน้องๆขึ้นมาอย่างนี้อะครับ อาจจะเป็นยิมหลายๆอย่างมีทั้งยูโด คือกีฬาที่ผมเรียนที่ผมพอมีความรู้อะครับ ก็คือยูโดกับยูยิตสู ก็คือนักสู้นี่ก็จะมาเป็นในส่วนประกอบ เหมือนมวยไทยอย่างงี้ ครอบครัวผมทางบ้านผมหนะมีค่ายมวยอยู่แล้ว ก็คือมันจะเอามาjoinกันได้ ค่ายมวยของน้าผมจะเป็นแบบฝรั่งซะเยอะ ชื่อค่ายเชียงใหม่นัมเบอร์วัน (Muay Thai Siam number one Chiangmai) อะครับ ค่ายแม่จะอยู่ที่แคนาดาอะครับ ที่นี่จะเป็นค่ายที่ 2 อะครับ ที่นี่เปิดมา10กว่าปีแล้วเหมือนกัน ส่วนมากจะเป็นต่างชาติอย่างงี้อะครับ ผมก็เลยแบบชินตากับมวยมาตั้งแต่เด็กๆเหมือนกัน

  • : “นักสู้” ในทัศนคติของคุณเป็นอย่างไร?
  • น้ำหวาน

    “นักสู้” ในทัศนคติของผมอันดับแรกเลยต้องขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของแต่ละคนมากกว่า เป็นหลักอะครับ ส่วนเทคนิคอะไรต่างๆมันจะสามารถเติมเข้ามาให้ได้ทีหลัง อันดับแรกต้องมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งนำมาก่อนละครับ ถ้าจิตใจแข็งแกร่งไม่จริงงี้ต่อให้คุณเก่งยังไงพอไปเจอคนเก่งเข้า เบียดไปนานๆนี่สภาพจิตใจจะบ่งบอกว่าคุณหนะสู้เค้าไม่ได้ ข้อแรกต้องขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจ ผมคิดว่าสภาพจิตใจมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของนักสู้ของผมครับ ใจต้อง 100% อะครับ

  • : ช่วยกล่าวถึงผู้สนใจในศึกนักสู้ครั้งที่7 NAKSU MMA Thailand 2011
  • น้ำหวาน

    สำหรับผู้ที่สนใจรายการนักสู้นะครับ ก็อยากจะเชิญชวนครับ ไม่ใช่ว่าเราดูอย่างเดียว เราดูอย่างเดียวเราไม่สามารถรู้ถึงความรู้สึกได้ ลองสมัครนะครับ เข้ามาแข่งขัน ฝึกซ้อม และผลแพ้ชนะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ อยากให้เข้ามาสัมผัสความรู้สึก แล้วก็อยากให้รู้ว่ามันไม่ได้รุนแรงอย่างที่เราคิด ถ้าเรามีเทคนิค มีความแข็งแรง มันจะไม่รุนแรงเหมือนกับที่เราเห็นในภาพต่างๆ ที่มันดูรุนแรงคือฝีมือมันต่างกันมากมันเลยดูรุนแรง ถ้าเรามีการฝึกซ้อมมาดี สภาพร่างกายดีนี่มันจะไม่เกิดการบาดเจ็บมากอะครับ อยากให้ลองเข้ามาแข่งขันกันดูครับ จะได้พบปะเพื่อนฝูงใหม่ๆ พบปะคนที่มีศิลปะการต่อสู้แบบใหม่ๆ จะได้เป็นการเปิดโลกตัวเองว่าในโลกของเราอยู่นี่มันจะมีวิชาการต่อสู้หลาก หลายไม่ใช่อย่างที่เราคิดเพียงอย่างเดียวอะครับ