สัมภาษณ์ "อ.มด"ประเสริฐ รินทระ กรรมการห้ามบนเวทีศึกนักสู้
- : หลังจบศึกนักสู้ครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างครับ?
อ.มด
ก็รู้สึกว่านักกีฬานี้มีการพัฒนาขึ้น แล้วก็เป็นที่สนใจกับนักสู้ต่างชาติเยอะครับ และเด็กเยาวชนนักศึกษานี่เค้าก็ให้ความสำคัญ แล้วก็รู้สึกว่าจะมีนักกีฬาหน้าใหม่นี่เข้ามาร่วมแข่งขันกันเยอะมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการประชาสัมพันธ์จากรุ่นพี่แล้วก็เพื่อนๆ นะฮะ และอาจจะมีสื่อที่ไปลงหนังสือมวยโลกนะ ที่เคยลงอะไรต่างๆ ประมาณนั้น
- : จุดเริ่มต้นที่มาเป็นกรรมการนักสู้มีความเป็นมาอย่างไรครับ?
อ.มด
จุดเริ่มต้นไช่ไหมครับ ก็คือเราได้ใช้วิชาชีพด้วย คือตอนเรียนเนี๊ยผมก็ได้ทุน คือเป็นนักกีฬามวยสากลนี่แหละครับ แล้วก็ได้ทั้งชกในกีฬามหา'ลัยด้วย แล้วก็ได้ตัดสินอะไรด้วย แต่ว่าเมื่อเราจบมาเนี๊ยเราไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้วิชาชีพในการตัดสินมา ก็บังเอิญช่วงนั้นก็ได้พลิกผันมาเป็นทั้งกรรมการ ทั้งยูโด แล้วก็นักกีฬาอะไรต่อมิอะไรด้วย พอดีช่วงนั้นเค้าต้องการที่จะทำให้กีฬานักสู้เนี๊ย มีเพื่อจัดสร้างทีมงานโดยเฉพาะมีคนไทยเข้ามาเนี๊ย ผมก็ว่า เออ...มันก็เป็นนิมิตหมายที่ดีที่เราได้เรียนมาได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ได้ร่ำเรียนมาได้ครับผม
- : ปัญหาที่พบบ่อยๆ ระหว่างการห้ามบนเวทีมีอะไรบ้างครับ?
อ.มด
ก็คือนักกีฬานี่บางครั้งก็ประมาณว่าไม่สามารถที่จะระงับอารมณ์ได้ บางครั้งเวลาที่แบบว่าสู้ไม่ได้เนี๊ยแต่พยายามที่จะฝืนสู้ แล้วก็ไม่พยายามที่จะเชื่อฟังกรรมการเท่าที่ควรนะฮะ แต่ก็น้อยครับมีน้อยๆ แต่ก็ได้เห็นอยู่บ้าง
- : มีวิธีควบคุมสถานการณ์อย่างไรครับ?
อ.มด
ก็ต้องแยกออกมาแล้วก็บอกก็เตือนนักกีฬานะครับว่า อันนี้มันเป็นแบบสมัครเล่นไม่ใช่อาชีพ เราก็ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เพราะว่าถ้าเกิดสามารถเซฟตรงนี้ได้ มันก็สามารถที่จะทำให้นักสู้ที่จะเข้ามานี่ ก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะได้หันมาพัฒนากีฬาประเภทนี้ เพื่อจะนำไปสู่ในระดับอาชีพหรือระดับสากล ระดับสูงๆ ขึ้นไปได้ครับ
- : หลักการเป็นกรรมการห้ามบนเวทีมีอะไรบ้าง?
อ.มด
หลักๆ นะฮะ ก็จะเน้นให้นักสู้เนี๊ยใช้ศิลปะของแต่ละคนนั้นให้เต็มที่ จะดูว่าทั้งคู่นั้นมีสปิริตด้วยหรือไม่ แล้วก็จะเอาเปรียบด้วยหรือไม่ ถ้าเกิดว่าเอาเปรียบอะไรต่างๆ มากนี่เราก็พยายามที่จะหยุดเบรกจะเซฟเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ ละครับ
- : อย่างเกมการชกไม่มีการออกอาวุธ มีวิธีกระตุ้นอย่างไรบ้างครับ?
อ.มด
ผมก็จะกระตุ้นนะครับ ก็บอกว่าให้พยายามออกอาวุธให้มากๆ ถ้ามองหน้าจ้องมากๆ นี่จะไม่มีคะแนนนะครับ ก็พยายามที่จะบอกเค้ากระตุ้นเค้า ก็จะใช้หลักการเดียวกับมวยไทยนี่ละครับ ถ้าไม่สู้นี่ก็พยายามจะเตือน ถ้าเตือนมากๆ เราก็จะหักคะแนนเค้านะฮะ
- : มีวิธีสื่อสารกับกรรมการด้านล่างอย่างไรบ้างครับ?
อ.มด
ก็คือเราจะดูนะฮะ เราจะดูกรรมการ แต่โดยส่วนมากตอนอยู่บนเวทีนี่ เรารู้เลยนะครับว่านักสู้คนไหนสามารถที่จะชนะได้เลย อันนี้คือว่าส่วนหนึ่งเราเป็นนักกีฬานี้มาเรารู้อยู่แล้ว เราก็คอยที่จะเซฟเรื่องความปลอดภัยของนักสู้ที่ไม่สามารถสู้อีกคนได้ คือตรงนี้มันจะห่างชั้นกันมาก จริงๆ ที่ผ่านมาเนี๊ยมันแทบจะไม่มีปัญหานะครับ
- : เสียงเชียร์หรือสภาพแวดล้อมในสนามมีผลต่อการห้ามบนเวทีไหม?
อ.มด
อันนี้ไม่มีผลหรอกครับ เพราะว่าข้างบนมันจะชัดเจน ข้างล่างนี่คือเราเข้าใจนะฮะ อ่า...คนข้างบนเนี๊ยเค้าออกอาวุธเนี๊ย อันไหนที่เข้าอันไหนที่มีอาการเนี๊ย เราจะเห็นได้ชัดเจนกว่า แต่ข้างล่างนี่บางทีเนี๊ย เค้ามองมานักสู้คนนี้ทำไมออกอาวุธมาก ทำไมออกมาถึงแพ้ แต่ในขณะเดียวกันคนที่ออกอาวุธน้อยนี่สามารถเก็บอาวุธได้ และออกไปเข้าเป้าแล้วก็มีอาการ บางครั้งเนี๊ยเราได้เห็นการบาดเจ็บของนักสู้ได้ เราสามารถที่จะพิจารณาได้เลย ก็จะไม่มีผลจากกองเชียร์ด้านล่างครับ มันจะต่างกับมวยไทยอาชีพเพราะนักสู้ตรงนี้จะไม่เหมือนมวยไทยอาชีพนะฮะ
- : การจับแพ้หรือยุติการชกในแต่ละครั้ง ต้องพิจารณาจากตรงไหนบ้างครับ?
อ.มด
อันนี้เราต้องดูนักสู้คนนั้นว่ามีความพร้อมไหม อ่า...มันมีกรณีครั้งที่ผ่านมามีนักสู้คนหนึ่งที่ถนัดมวยไชยานะครับ ก็คือว่าเค้าปิดป้องอย่างเดียวไม่ออกอาวุธ แต่ในขณะเดียวกันนักสู้อีกคนหนึ่งเนี๊ยเค้าได้ออกอาวุธ แต่ในขณะเดียวกันนั้นคืออยู่ในดุลพินิจของกรรมการด้านบน คือถ้าเค้าไม่ออกอาวุธมากๆ แล้วถ้าบังเอิญ ถ้าโดนในจุดสำคัญอะไรต่อมิอะไรไป ก็คือในตรงนี้มันอาจจะต้องเซฟนะครับ ในสายตาของกรรมการกับผู้ดูมันอาจจะแตกต่างกัน ของเรานี้เป็นระดับสมัครเล่น แต่ถ้าเป็นอาชีพนี่เค้าอาจจะปล่อยให้ตีกันต่อได้นะครับ ก็ตรงนั้นต้องเซฟเป็นอันดับสำคัญนะครับผม ในสายตาที่ผมมองนะครับ
- : หน้าที่การงานตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้างครับ?
อ.มด
เป็นครูอยู่โรงเรียนสารสาสน์ครับผม เป็นครูพละนี่แหละครับ
- : กิจวัตรประจำวันทำอะไรบ้างครับ?
อ.มด
ช่วงนี้น้ำท่วม 555 ก็เปิดมา ได้มาช่วย Big Cleaning Day พอเลิกเรียนอะไรต่างๆ ได้ยืดเส้นอะไรต่างๆ ก็เล่นกีฬาเล็กๆน้อยๆ นี่ละครับ แต่เมื่อก่อนผมก็ได้ทำกีฬา อยู่ราชดำเนินได้ทำทั้งมวยไทย มวยสากล มวยปล้ำ แล้วก็ยูโดด้วย แล้วก็เคยได้ไปทำกีฬาที่จังหวัดสุพรรณบุรีด้วยนะครับ แต่ช่วงนี้พอได้มาอยู่โรงเรียนสารสาสน์นี่ซึ่งเค้าจะเน้นทางด้านวิชาการและภาษาเป็นหลักนี่ ผมก็เลยต้องอยู่ตรงนั้นไป แต่ก็ได้มีหลานชายนี่เรียนอยู่ตรงส่วนโรงเรียนกีฬาอยู่ ก็หมายมั่นไว้ว่าจะฝึกซ้อมเค้าเอาไว้ อ่า...มีความแข็งแรงก่อน แล้วก็อายุครบตามนั้นก่อนฮะ แล้วก็ว่าจะส่งเข้าร่วมแข่งขันรายการนักสู้อยู่เหมือนกันฮะ
- : มองศึกนักสู้ไว้อย่างไรบ้างครับ?
อ.มด
ในส่วนตัวมองมาเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ในส่วนที่คนไทยไม่เคยเจอ จะดูตามในรายการ UBC อะไรต่างๆ ซึ่งก็เป็นแบบอาชีพนะครับ แต่นี่มาปุ๊บก็จะเน้นเป็นสมัครเล่น แล้วก็คือศิลปะมันมีหลายประเภทนำมาประยุกต์ผสมผสานอะไรต่อมิอะไรด้วย เวลาขึ้นไปแข่งขันอะไรต่างๆ
- : ตอน 2009 เคยเป็นกรรมการ แล้วพอปี 2010 เป็นนักสู้ด้วย ตอนนั้นคิดอย่างไรครับ?
อ.มด
โอ้โห ครั้งแรกผมอยากจะชก ส่วนครั้งที่ 2 ไช่ไหมครับ มันเลื่อนจน โอโห เราซ้อมมาบ่อยๆ วันนั้นไปปุ๊บ ร่างกายก็ไม่พร้อม การเดินทางไปก็ลำบากอะไรต่อมิอะไรประมาณนั้น คือช่วงนั้นมีการปิดถนนอะไรต่ออะไรด้วย โอโห ถ้าตอนนั้นช่วงนั้นฟิตๆ อะไรด้วย คือความกระหายของเรามันก็หมดไปแล้ว ไหนต้องทำงานอีก เวลาซ้อมก็ไม่เต็มที่ 555 อีกอย่างหนึ่งก็คืออายุเราก็มากด้วย เราก็ยังเสียดายโอกาสมา แหม...ขณะเดียวกันเรามีโอกาสที่จะเผด็จศึกเค้าได้ แต่ว่าทำไมละเราถึงไม่ทำ พอปุ๊บเราถึงโอโฮ...อืม มันก็เหนื่อยนะ ก็คือว่าถ้าคนไม่ขึ้นไปข้างบนจริงๆ เราไม่รู้ อีกอย่างคือว่าเรามองได้เลยว่าถ้าไม่ฟิตเนี๊ยนะครับ เก่งขนาดไหนก็แพ้สังขารเป็นโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ในส่วนลึกก็อยากจะได้มีโอกาสขึ้นไปแข่งขันอีก ถ้าเกิดมีความพร้อมของร่างกายนะฮะ เป็นอะไรที่ท้าทายด้วย คือในส่วนหนึ่งนี่มีน้องที่รู้จักกันก็คืออย่าง อ.สุริยา, อ.โจ้, แล้วก็น้องที่เป็นโฆษกอีกคนหนึ่งก็ที่สนิทกันนะครับ ก็เคยเล่นกีฬายูโดอะไรมาด้วยกัน เคยทำกีฬาแห่งชาติด้วยกัน เค้าบอกพี่มดมาช่วยตัดสินดีกว่านะ ได้ใช้วิชาชีพอะไรต่ออะไรด้วยครับผม
- : เป็นทั้งกรรมการและเป็นนักสู้ด้วย มีความแตกต่างอย่างไรบ้างครับ?
อ.มด
คือทั้งกรรมการและนักสู้นี่ คือผมยอมรับในส่วนของกรรมการนะครับ แล้วก็ในส่วนที่เป็นนักสู้ก็ถือว่าสปิริตมาคือแพ้-ชนะเรานี่ต้องยอมรับ ส่วนหนึ่งคือกรรมการนั้นถูกต้องแล้วต้องมาเซฟ เพราะบางครั้งเนี๊ย ดูปกติ เอ๊ะ! สู้ได้นี่ แต่ว่าในขณะเดียวกันทำไมถึงหมดดื้อๆ เลย ง่าย คือบางครั้งความพร้อมของร่างกาย เท่ากับว่าเค้าเซฟมาถูกต้องเลย ถ้าเกิดว่าเป็นคนอื่นเค้าไม่รู้ตัวอะไรต่างๆ นี่อาจจะส่งผลให้เป็นอันตราย แล้วก็บางทีคนอื่นเค้ามามองในมุมหนึ่ง อันนี้เป็นการโจมตี โอโห กีฬานี้เป็นกีฬาป่าเถื่อนประมาณลักษณะนั้นครับ คือจริงๆ แล้วผมเล่นกีฬาปะทะนี่มานี่ก็โอโห 15-16 ปีละ ทั้งมวย ทั้งยูโด ทั้งมวยปล้ำนี่ละฮะ แต่ว่าไอ้ครั้งที่ผ่านมา 555 ด้วยความไม่พร้อมคือ มันเลื่อนบ่อย แล้วก็มันบังเอิญประจวบเหมาะกับ โอโฮ...ร่างกายมันฟื้นไม่ทันอีกต่างหาก แต่ว่าส่วนหนึ่งเราไม่อยากให้เสียรายการด้วย แล้วเรายังมั่นใจ แต่ว่าพอไปมากๆ มาเนี๊ย เรามันอายุมากมันแผ่ว สู้เด็กที่มันสดไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพในส่วนตรงนั้น
- : อยากเห็นอะไรในวงการ MMA ไทยครับ
อ.มด
อยากให้มีนักกีฬาผู้หญิงมาบ้างฮะ เพราะว่าเมื่อเราต่อยอดขึ้นมาก็คือ หลักๆ เลยเราจะเซฟเรื่องความปลอดภัย และพยายามที่จะเป็นสมัครเล่น ไม่ให้มันเหมือนเป็นอาชีพ คือมันดูโหดร้ายเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเกิดว่าสามารถแบ่งเป็นรุ่นอายุได้ มันก็จะประมาณว่ามีหลายรุ่น อย่างเช่น 16 18 แล้วก็โอเพ่นสัก 3 รุ่นเนี๊ยไช่ไหมครับ แล้วก็นะ อาจจะแข่งเดือนละ 1 ครั้งหมดไปเลยไรเงี๊ย เพื่อให้มันมีความถี่รายการต่างๆ นะครับ ได้เคลื่อนไหวตลอดมา แต่ว่าตรงนี้มันเป็นสมัครเล่นอยู่แล้วเราจะเน้นเซฟ และอีกอย่างเนี๊ยคือ เค้าก็ได้รู้ ได้เข้าใจ ได้แข่งบ่อยๆ เนี๊ย ได้เกิดความชำนาญ และผมว่ามันอาจจะเป็นอะไรที่โตได้ไวกว่านี้ พูดง่ายๆ ว่าก็มีคนสนใจเยอะ ขณะเดียวกันนะฮะ ในทีมงานของผมเนี๊ยกับคุณกษภัทรนะฮะ ก็ในทีมขุนศึกเนี๊ย ก็มีครูที่เป็นชาวต่างชาติเนี๊ยเค้าก็มาซ้อมมวยไทย เค้าเป็นนักมวยเก่านะฮะ ก็ในทีมเดียวกับผมละ เค้าก็เคยมาซ้อมเค้าก็เคยเล่น MMA แต่เค้าน่าจะถนัดแบบอาชีพอะไรประมาณนั้นฮะ แต่เค้าชอบมวยไทย แต่นี่น้องเค้าก็สอนมวยไทยอะไรต่ออะไรอยู่ ผมก็ได้เข้าไปช่วยอยู่ พอดีช่วงนี้มันน้ำท่วมอะไรต่ออะไรด้วยนะฮะ ก็มีโครงการมาเนี๊ยในกลุ่มพวกผมเนี๊ย เพราะว่าต่อไปครูต่างชาติพวกเนี๊ยจะได้นำเข้ามาแข่งขันในรายการ ซึ่งได้จัดให้เป็นสมัครเล่นเนี๊ย เค้าก็สนใจนะฮะ เค้าชอบด้วย
- : ผู้หญิงเล่นกีฬา MMA มองไว้อย่างไรบ้างครับ?
อ.มด
ผมมองถือเป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นเทควันโด ยูโด มวยไทยนี่ก็มีอยู่นะที่เราดูหนะ ของอัศวินดำก็มีอยู่แล้ว มวยไทยหญิง แล้วก็มวยสากลเดี๋ยวนี้ มวยสากลที่ไปซีเกมส์นี่ก็มีไช่ไหมครับ ทั้งเทควันโดอะไรต่างๆ นั้นแล้วก็ยูโด ถ้ามานี่นักกีฬามวยปล้ำนี่ก็มีเยอะของผู้หญิงนะครับ ถ้าเปิดตรงนี้ออกไปนะครับพวกที่เล่นๆ มาเนี๊ย ผมก็ว่าน่าจะมีเข้ามา ไอ้ครั้งแรกนี่เราอาจจะมีโอเพ่นก่อนนะครับ ต่อไปพอเริ่มติดมาปึ๊บ อ่า...18ปี 16ปี พวกในกลุ่มนี้พวกนักศึกษาเนี๊ยนะครับ ตามมหาลัยต่างๆ เนี๊ยเค้าก็สนใจ ก็น่าจะมีเข้ามาให้การตอบรับในการแข่งขันเยอะ
- : ศึกนักสู้ครั้งที่ 8 คาดหวังไว้อย่างไรบ้างครับ?
อ.มด
ผมอยากให้มีการแข่งขันให้ถี่มากกว่านี้ คือบางครั้งนี่ 3 เดือนครั้งเนี๊ย ผมก็เข้าใจไอ้เรื่อง บางครั้งเรื่องการเช่าสนามอะไรต่ออะไร องค์ประกอบหลายๆ อย่าง แต่ถ้าเกิดว่าเรามีแข่งขันให้บ่อยครั้งมากเนี๊ยนะครับ ผมว่านี่มันจะทำให้มันติดชื่อติดหูมาก แล้วก็นักกีฬาพวกนี้สามารถที่จะไปต่อยอด บางทีนะฮะเค้าเล่นวูซู ก็นำไปแข่งได้ไช่ไหมครับ ในกีฬาที่ปะทะลักษณะเดียวกัน
- : ช่วยฝากอะไรสักหน่อยครับ
อ.มด
ก็อยากจะเห็นนักกีฬานะครับ นักสู้เราเนี๊ยที่ได้แข่งขันรายการนี้ครับ แล้วก็ได้มีการพัฒนาฝีมือขึ้นไปสู่ในระดับสูงๆ บางคนอาจจะไปเล่นอาชีพ นี่แหละครับ ตรงนี้เป็นบันไดแรกก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ แล้วก็ทำให้กีฬาศิลปะผสมผสานเนี๊ยให้ทุกคน โดยเฉพาะนักกีฬาไทยเท่านั้น นักสู้ไทยเท่านั้น ให้ทุกคนในโลกนี้ได้รู้ว่านักกีฬาไทยนี่ก็ไม่แพ้กีฬาใดในโลกโดยเฉพาะกีฬานักสู้ของเราครับผม